ข้อดีการออกแบบและก่อสร้าง ด้วยสถาปนิกและผู้รับเหมาทีมเดียวกัน

วิธีการออกแบบรวมก่อสร้างนี้เป็นวิธีการที่เจ้าของบ้านเลือกให้การออกแบบและการก่อสร้างไว้ให้ผู้รับเหมารายเดียวกัน หรือกล่าวคือเป็นการจ้างเบ็ดเสร็จทุกขั้นตอนในผู้ให้บริการเจ้าเดียว แบบครบวงจร โดยหัวใจหลักของการออกแบบและก่อสร้างนั้นหลัก ๆ ก็คือการรวมทีมออกแบบและก่อสร้างไว้ด้วยกันนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม การเลือกวิธีการสร้างบ้านก็เหมือนเป็นการวางรากฐานในการปลูกบ้านสักหลัง ซึ่งเจ้าของบ้านควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะในทุกขั้นตอนนั้นต้องใช้ความละเอียดที่จะส่งผลต่อความสมบูรณ์ของบ้าน ดั้งนั้นเราควรพิจารณาข้อดีหรือเงื่อนไขในการเลือกผู้บริการออกแบบและก่อสร้างก่อนตัดสินใจ


1. บริหารจัดการได้ง่าย ไม่ปวดหัว

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างบ้านหนึ่งหลังเลยคือการวางโครงสร้างที่ดี การออกแบบและก่อสร้างที่ดีควรมีสถาปนิกและวิศวกรที่ทำงานกันเป็นทีมเดียวกัน มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาด้านเทคนิคการก่อสร้างระหว่างงานวิศวะและงานสถาปัตย์ ไร้ปัญหาการถกเถียงเกี่ยงความรับผิดชอบหากเกิดปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น ทำให้การสร้างบ้านราบรื่น ไม่ปวดหัว

2. ควบคุมงบประมาณและมาตรฐานได้

เรื่องของงบประมาณถือเป็นปัจจัยหลักที่เจ้าของบ้านเองต้องให้ความสำคัญ การใช้วิธีออกแบบรวมก่อสร้างนี้อาจจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เนื่องจากทีมออกแบบและทีมวิศวะจะมีการวางแผนงานร่วมกันตั้งแต่แรก โดยคำนึงถึงขั้นตอนและเทคนิคต่าง ๆ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในแต่ละขั้นตอนการก่อสร้างให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ผู้ออกแบบกำหนด ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนในการทำงานโดยภาพรวมได้ดีทีเดียว

3. ควบคุมระยะเวลาทำงานได้

เนื่องจากมีแบบบ้านที่ชัดเจน สามารถวางแผนการทำงานตั้งแต่การออกแบบ-การก่อสร้าง (Design & Build) มากกว่านั้น ยังช่วยร่นระยะเวลาการก่อสร้างในการดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ ได้อีกด้วย เนื่องจากทีมสถาปนิกและทีมวิศวกรจะแบ่งการทำงานกันในจุดที่สามารถทำได้ ทำให้ประหยัดเวลาไปได้ส่วนหนึ่ง

ทั้งนี้ การตัดสินใจเลือกวิธีการดำเนินการในการปลูกบ้านสักหลัง สิ่งสำคัญคือการพิจารณาเลือกผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ ตัวอย่างบ้านที่สร้างจริง รวมถึงปัจจัยที่กล่าวไว้ข้างต้น เจ้าของบ้านจะได้มั่นใจได้ว่าบ้านที่เราเลือกนั้นเป็นบ้านที่มีคุณภาพถูกใจ ไม่บานปลาย และที่สำคัญตรงตามความต้องการของเราที่สุดนั่นเอง