วิธีเลือกพื้นให้เหมาะกับบ้านคุณ

อีกหนึ่งขั้นตอนในการสร้างบ้านที่สำคัญคือการปูพื้น ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จะช่วยรองรับน้ำหนักบ้าน มากกว่านั้นการเลือกใช้วัสดุปูพื้นแบบต่าง ๆ จะช่วยทำให้บ้านมีบรรยากาศ อารมณ์ ที่แตกต่างกันตามฟังก์ชันการใช้งานในแต่ละบริเวณ

ปัจจุบันวัสดุการปูพื้นหรือวิธีการทำพื้นมีให้เลือกมากมาย หลายแบบ หลากสไตล์ ซึ่งต่างกันไปทั้งในเรื่องของผิวสัมผัส ลวดลาย สี ราคา รวมถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือคุณสมบัติ ข้อดีหรือข้อจำกัดในการใช้งาน ดังนั้นการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานและคำนึงถึงฟังก์ชันจะช่วยตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแต่ละวันของผู้อยู่อาศัยให้สะดวกสบายมากที่สุด

ไม้จริง
ไม้จริง ถือเป็นวัสดุที่เป็นที่นิยมและใช้กันมาอย่างยาวนาน เนื่องด้วยผิวสัมผัสที่แน่น แข็งแรง บวกกับสีและลวดลายของไม้แต่ละประเภทที่มีความแตกต่างกัน ทำให้บรรยากาศของห้องดูธรรมชาติ สร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นออกมานั่นเอง

อย่างไรก็ตามพื้นไม้จริงก็มีข้อแตกต่างในเรื่องของราคาที่สูงกว่าวัสดุประเภทอื่น รวมถึงข้อควรระวังในการใช้งานอยู่ทั้งในเรื่องของสภาพอากาศที่ไม่ถูกกับความชื้น และการดูแลรักษาที่ต้องคอยสังเกตและป้องกันแมลง ไม่ให้มาสร้างความเสียหายให้บ้านเรา

เหมาะกับพื้นที่: ห้องที่ไม่มีความชื้น เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอน

ข้อดี
- สวยงาม มีเอกลักษณ์
- ผิวสัมผัสธรรมชาติ
- มีอายุการใช้งานยาวนาน
- ถ่ายเทความร้อนดี ห้องเย็น

ข้อจำกัด
- ราคาสูงเทียบกับวัสดุชนิดอื่น
- มีการยืดหดตามสภาพอากาศ
- ปัญหาเรื่องปลวก หากดูแลไม่ดี

ไม้ลามิเนต
ลามิเนต เป็นการนำวัสดุขี้เลื่อยไม้มาอัดประกอบ รวมถึงวัสดุอื่นๆ เช่น ลวดลายไม้ ฟิลม์เคลือบผิวหน้า มาขึ้นรูปใหม่ในลักษณะแผ่น เป็นวัสดุทดแทนไม้ธรรมชาติให้ความรู้สึกธรรมชาติด้วยลวดลายและสีที่หลากหลาย อีกทั้งยังมีพื้นผิวสัมผัสที่เหมือนไม้จริงในราคาที่ย่อมเยา มากกว่านั้นวัสดุนี้ยังมีข้อดีในการติดตั้ง ก็คือติดตั้งง่ายใช้เวลาน้อย และทำความสะอาดง่ายไม่อมฝุ่น สามารถติดตั้งทดแทนไม้จริงได้เลยทำให้เป็นที่นิยมในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ลามิเนตก็มีข้อจำกัดที่เด่นชัดในเรื่องของความชื้น ไม่ทนต่อน้ำ มีความเสี่ยงสูงที่ถ้าโดนน้ำบ่อยๆจะทำให้เกิดความชื้นและบวมได้ และควรระวังในเรื่องของปลวกหากพื้นอยู่ในบริเวณที่เสี่ยงต่อความชื้น

เหมาะกับพื้นที่: ทุกห้อง ยกเว้น ห้องครัว ห้องน้ำ หรือห้องที่มีความชื้นสูง

ข้อดี
- สีและลายเหมือนไม้จริง
- ให้ผิวสัมผัสคล้ายไม้จริง
- ติดตั้งง่าย
- ทำความสะอาดง่าย

ข้อจำกัด
- ไม่ทนต่อน้ำและความชื้น
- เสี่ยงต่อปลวกกัดไม้
- เป็นรอยได้ง่าย

กระเบื้องยาง/ไวนิล
กระเบื้องยาง หรือไวนิล เป็นวัสดุที่ผลิตจากยางธรรมชาติ หรือที่ผลิตจากโพลิเมอร์ เคลือบด้วยสารต่างๆที่ทำให้พื้นผิวมีความแข็งแรง ออกแบบมาเพื่อเลียนแบบพื้นไม้จริง และทดแทนพื้นไม้ลามิเนต มีคุณสมบัติเด่นคือทนต่อน้ำและความชื้นได้อย่างดี มีคุณสมบัติที่สามารถติดตั้งได้ในห้องหลากหลายประเภท และมีการพัฒนาให้มีหลากหลายลวดลายมากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ค่อนข้างได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลัง อีกทั้งยังติดตั้งง่าย ทำความสะอาดง่ายอีกด้วย

ถึงแม้กระเบื้องยางจะมีคุณสมบัติเด่นที่ติดตั้งง่าย แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของการปู เพราะถ้าหากพื้นเดิมไม่เรียบ จะทำให้พื้นกระเบื้องยางที่ปูทับเป็นคลื่นชัดเจน

เหมาะกับพื้นที่: ห้องครัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่น

ข้อดี
- มีให้เลือกหลายขนาด หลายลวดลาย
- ติดตั้งง่าย ใช้เวลาติดตั้งไม่นาน
- ทนต่อน้ำ ความชื้นได้ดี
- ดูแลรักษา ทำความสะอาดง่าย

ข้อจำกัด
- หากปูพื้นไม่ดีจะเป็นคลื่น เห็นได้ชัด
- เป็นรอยขีดข่วนง่าย

กระเบื้องเซรามิค
กระเบื้องเซรามิค เป็นวัสดุที่ผลิตจากกระเบื้องดินเผา ที่มีส่วนผสมของ ดินเหนียว หิน แร่ ฯลฯ ซึ่งได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานเนื่องจากมีราคาที่ถูก อีกทั้งยังมีให้เลือกหลากหลายเกรด และลวดลาย สีสันที่หลากหลาย นอกจากนี้กระเบื้องเซรามิคยังมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน ทนต่อความร้อนและความชื้น เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับการปูพื้นบ้านในประเภทห้องต่าง ๆ

ข้อควรระวังของการปูกระเบื้องเซรามิคนั้นคือคุณสมบัติของการรับน้ำหนักที่ไม่เยอะ อาจเกิดรอยปริ ร้าว หรือแตกได้ รวมถึงผิวสัมผัสที่มีความลื่นเมื่อโดนของเหลว ทำให้อาจเกิดอุบัติเหตุได้ อีกข้อจำกัดของการปูพื้นประเภทนี้คือเมื่อปูเสร็จจะมีรอยยาแนวที่มากกว่าการปูพื้นวัสดุอื่น ๆ และหากเกิดความเสียหายจะต้องกระเทาะออกและอาจทำให้เกิดความเสียหายกับกระเบื้องแผ่นรอบข้าง

เหมาะกับพื้นที่: ทุกห้อง

ข้อดี
- มีให้เลือกหลายขนาด หลายลวดลาย
- แข็งแรงทานทาน
- มีอายุใช้งานที่ยาวนาน
- ติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร

ข้อจำกัด
- รับน้ำหนักได้ไม่เยอะ อาจแตกได้ง่าย
- รอยต่อยาแนวที่กว้าง ไม่เนี๊ยบ
- ผิวสัมผัสมีความลื่น อาจเกิดอุบัติลื่นล้มได้

กระเบื้องแกรนิตโต้
กระเบื้องแกรนิตโต้ เป็นวัสดุที่มีผงแกรนิตเป็นส่วนผสมหลัก นำมาอัดขึ้นรูปเป็นแผ่นทำให้มีความแข็งแรงและมีขนาดที่เป็นมาตรฐาน มีคุณสมบัติเด่นคือความทนทาน ทนต่อการขีดข่วน ทนต่อความชื้น และ รับน้ำหนักได้มาก เหมาะกับพื้นที่ที่ใช้งานหนัก มากกว่านั้นกระเบื้องชนิดนี้ยังมีลวดลายที่หลากหลาย หลากสไตล์ สามารถปูตกแต่งพื้นบ้านได้อย่างสวยงาม

แม้ว่าจะมีความแข็งแรงทนทาน แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของผิวสัมผัสที่มีความลื่นมากกว่าวัสดุอื่นๆ ทำให้ผู้อยู่อาศัยต้องระมัดระวังมากกว่าปกติ รวมถึงอุณหภูมิที่กักเก็บความเย็น ทำให้ผิวสัมผัสมีความเย็นอาจไม่เหมาะกับพื้นห้องที่ใช้สำหรับพักผ่อน

เหมาะกับพื้นที่: ชั้นล่างของบ้าน หรือบริเวณที่มีการใช้งานหนัก

ข้อดี
- แข็งแรงทานทาน ทนต่อการขีดข่วน
- ทนต่อความชิ้น
- รับน้ำหนักได้ดีมาก
- มีลวดลายให้เลือกมากมาย

ข้อจำกัด
- ผิวสัมผัสมีความลื่น และเย็นเท้า
- ติดตั้งยาก ทำให้ค่าปูพื้นมีราคาแพง

พื้นคอนกรีตขัดมัน
พื้นคอนกรีตถือว่าเป็นวัสดุพื้นฐาน นำมาขัดมันทำให้มีลักษณะมันและเงาสวย มีจุดเด่นคือแข็งแรงทนทานมีอายุการใช้งานนานนับ 10 ปี อีกทั้งยังให้ผิวสัมผัสที่เย็นสบาย เป็นที่นิยมมากในปัจจุบันเนื่องจากนักออกแบบได้พัฒนาพื้นคอนกรีตให้มีลวดลายและสีสันที่หลากหลาย บวกกับเทรนด์แต่งบ้านที่เปลี่ยนไป ผู้คนนิยมตกแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์ เน้นความดิบเท่กันมากขึ้น ทำให้พื้นคอนกรีตกลับมานิยมมากกว่าแต่ก่อนมาก

แม้ว่าจะเป็นที่นิยมมาก พื้นคอนกรีตก็มีข้อจำกัดในด้านต่าง ๆ อยู่พอสมควร เช่น ข้อควรระวังในการใช้งานหากโดนน้ำ จะทำให้ผิวสัมผัสมีความลื่น เสี่ยงต่ออุบัติเหตุต่อคนในบ้าน หรือจะเป็นในเรื่องของการเก็บอุณหภูมิทั้งความร้อนและความเย็น อาจทำให้พื้นหดและขยายตัวเสี่ยงต่อการแตกร้าวของพื้นผิว

เหมาะกับพื้นที่: ทุกห้อง ยกเว้น ห้องครัว ห้องน้ำ หรือห้องที่มีความชื้นสูง

ข้อดี
- มีผิวหน้าที่แข็งแรง รับน้ำหนักและทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี
- มีอายุการใช้งานนาน
- ราคาถูก ติดตั้งง่าย
- พื้นผิวสัมผัสเย็นสบาย ไม่เก็บความร้อน

ข้อจำกัด
- โดนน้ำแล้วลื่นง่าย
- กักเก็บความร้อนและความชื้นง่าย เสี่ยงต่อความเสียหายต่อพื้นผิวได้ง่าย
- หากรับแรงกระแทกสามารถแตกได้ง่าย